
สวัสดีครับทุกท่าน ผม นายแพทย์อภิรักษ์ วงษ์เสาวศุภ หรือที่หลายท่านรู้จักกันในนาม "หมอเติ้ง" แพทย์เจ้าของ คลินิกศัลยกรรมและเสริมความงาม Aurora Clinic สุราษฎร์ธานี และ เกาะสมุย ครับ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาในฐานะศัลยแพทย์ตกแต่ง ผมได้พบปะผู้คนมากมายที่มาพร้อมกับความกังวลใจเกี่ยวกับความเปลี่ยนแปลงของใบหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณรอบดวงตาและหน้าผาก ซึ่งมักเป็นจุดที่บ่งบอกถึงอายุที่เพิ่มขึ้น และส่งผลกระทบอย่างมากต่อความรู้สึกสดใสและความมั่นใจในชีวิตประจำวัน
วันนี้ ผมอยากจะพาทุกท่านมาร่วมกันไขความลับและปลุก "ดวงตาสดใส" ที่ซ่อนอยู่ในตัวคุณให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง พร้อมกับทำความเข้าใจถึงสาเหตุของปัญหา "คิ้วตก" และ "หน้าผากย่น" รวมถึงเทคนิคการแก้ไขที่หลากหลายและปลอดภัย ในแบบฉบับของผมที่ Aurora Clinic ที่เน้นผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ ความปลอดภัยสูงสุด และความพึงพอใจของคนไข้ทุกท่าน
เปิดม่านแห่งความกังวล: เมื่อดวงตาเริ่มโรยราและใบหน้าเริ่มแสดงสัญญาณวัย
ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมาที่ผมได้ทำอาชีพศัลยแพทย์ตกแต่ง ผมได้มีโอกาสพบปะพูดคุยและให้คำปรึกษากับผู้คนหลากหลายวัย หลากหลายอาชีพ ที่เดินทางเข้ามาหาผมด้วยความกังวลใจเดียวกัน นั่นคือความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นบนใบหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณรอบดวงตาและหน้าผาก ซึ่งมักจะเป็น "จุดแรก" ที่ส่งสัญญาณแห่งวัย และเป็นจุดที่ส่งผลกระทบอย่างมากต่อความรู้สึกสดใสและความมั่นใจในชีวิตประจำวันของพวกเขา
ในห้องปรึกษาของ Aurora Clinic ผมมักจะได้ยินประโยคที่สะท้อนความรู้สึกเหล่านี้ซ้ำๆ กันครับ ไม่ว่าจะเป็น: "หมอคะ ทำไมตาถึงดูเศร้าตลอดเวลาเลยคะ ทั้งที่ไม่ได้รู้สึกเศร้าเลย?" "รู้สึกเหมือนหนังตาหนักๆ บดบังการมองเห็น ทำให้ชีวิตประจำวันลำบากขึ้น" "ใต้ตาคล้ำมากจนถูกทักว่านอนไม่พออยู่เรื่อยๆ" หรือ "หน้าผากย่นเป็นริ้วๆ เลยค่ะ ทำให้ดูแก่กว่าวัยมาก" คำพูดเหล่านี้ไม่ใช่เพียงแค่การบ่นถึงปัญหาผิวพรรณภายนอกเท่านั้น แต่ยังเป็นเสียงสะท้อนจากความรู้สึกไม่มั่นใจที่เริ่มก่อตัวขึ้นภายในใจของพวกเขา
ดวงตา ไม่ใช่แค่เพียงอวัยวะที่ใช้มองเห็นโลกภายนอกเท่านั้น แต่ยังเป็น "หน้าต่างของหัวใจ" ที่สะท้อนอารมณ์ ความรู้สึก และพลังงานของเราสู่โลกภายนอกด้วย หากดวงตาของเราดูอิดโรย ไม่สดใส มีร่องรอยแห่งวัยปรากฏชัดเจน ก็อาจทำให้ผู้อื่นเข้าใจผิดว่าเราดูเหนื่อยล้า ไม่กระตือรือร้น หรือแม้กระทั่งดูไม่เป็นมิตร ซึ่งส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ การสื่อสาร และความสัมพันธ์ในทุกมิติของชีวิต
ในมุมมองทางการแพทย์และประสบการณ์ส่วนตัวของผม ปัญหาหลักๆ ที่มักจะรบกวนจิตใจคนไข้และเป็นต้นตอของความกังวลใจเหล่านี้ สามารถจำแนกและอธิบายอย่างละเอียดได้ดังนี้ครับ
-
หนังตาตก (Ptosis / Droopy Eyelids)
การบดบังทัศนียภาพและความสดใสของดวงตา หนังตาตก คือภาวะที่เปลือกตาบนหย่อนคล้อยลงมาต่ำกว่าตำแหน่งปกติ ซึ่งอาจบดบังรูม่านตาและส่งผลต่อการมองเห็นได้ ปัญหานี้สร้างความกังวลใจอย่างมาก เพราะนอกจากจะทำให้ดวงตาดูเล็ก ดูเศร้าหมอง และดูเหนื่อยล้าตลอดเวลาแล้ว ยังส่งผลต่อคุณภาพชีวิตในด้านการมองเห็นอีกด้วย
สาเหตุของหนังตาตกนั้นมีหลากหลายและซับซ้อน
-
หนังตาตกแต่กำเนิด (Congenital Ptosis)
เป็นภาวะที่เกิดขึ้นตั้งแต่แรกเกิด เกิดจากความผิดปกติของกล้ามเนื้อที่ทำหน้าที่ยกเปลือกตา (Levator Palpebrae Superioris muscle) ซึ่งอาจพัฒนาไม่สมบูรณ์ หรือมีการทำงานที่ผิดปกติไป
-
หนังตาตกที่เกิดขึ้นภายหลัง (Acquired Ptosis)
-
หนังตาตกจากการเสื่อมสภาพของเส้นเอ็น (Aponeurotic Ptosis)
-
นี่คือสาเหตุที่พบบ่อยที่สุดในผู้สูงอายุ เกิดจากการที่เส้นเอ็น (Aponeurosis) ที่เชื่อมระหว่างกล้ามเนื้อ Levator กับเปลือกตาเกิดการยืดออก หย่อนคล้อย หรือหลุดออกจากตำแหน่งเดิม ทำให้กล้ามเนื้อไม่สามารถยกเปลือกตาขึ้นได้เต็มที่
-
หนังตาตกจากกล้ามเนื้อ (Myogenic Ptosis)
เกิดจากความผิดปกติของตัวกล้ามเนื้อยกเปลือกตาเอง เช่น ในผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง Myasthenia Gravis หรือโรคทางกล้ามเนื้ออื่นๆ
-
หนังตาตกจากระบบประสาท (Neurogenic Ptosis)
เกิดจากความผิดปกติของเส้นประสาทที่ควบคุมกล้ามเนื้อยกเปลือกตา เช่น ในผู้ป่วยอัมพาตเส้นประสาทคู่ที่ 3 (Third Nerve Palsy) หรือโรคทางระบบประสาทอื่นๆ
-
หนังตาตกจากการบาดเจ็บ (Traumatic Ptosis)
เกิดจากการบาดเจ็บที่เปลือกตา กล้ามเนื้อ หรือเส้นประสาทที่ควบคุมการทำงานของเปลือกตา
-
หนังตาตกเชิงกล (Mechanical Ptosis)
เกิดจากการที่มีน้ำหนักหรือมวลมาถ่วงเปลือกตาบน เช่น ก้อนเนื้อ เนื้องอก หรือการบวมน้ำอย่างรุนแรง ทำให้เปลือกตาหย่อนคล้อยลงมา
ผลกระทบของหนังตาตก
-
ทางสุนทรียภาพ
ทำให้ดวงตาดูเล็ก ไม่สดใส ดูเศร้า ดูเหนื่อยล้า หรือดูเหมือนกำลังหลับตลอดเวลา ซึ่งส่งผลต่อภาพลักษณ์และความมั่นใจอย่างมาก
-
การบดบังทัศนวิสัย
ในกรณีที่หนังตาตกมาก อาจบดบังรูม่านตา ทำให้การมองเห็นแย่ลง โดยเฉพาะการมองขึ้นหรือการมองเห็นส่วนบนของภาพ
-
การชดเชยด้วยการเลิกคิ้ว
ผู้ที่มีหนังตาตกมักจะพยายามเลิกคิ้ว หรือขมวดคิ้วอยู่ตลอดเวลาเพื่อช่วยในการเปิดตาให้กว้างขึ้น พฤติกรรมนี้เองที่นำไปสู่การเกิด ริ้วรอยหน้าผาก ที่ลึกและชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ
-
ผลกระทบทางจิตใจ
ความกังวลเรื่องรูปลักษณ์และการถูกทักบ่อยๆ ทำให้เกิดความเครียด ความไม่มั่นใจ และหลีกเลี่ยงการเข้าสังคม
-
คิ้วตก (Brow Ptosis / Drooping Brows)
กรอบดวงตาที่เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา คิ้วตก เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่มักมาคู่กับ หนังตาตก และมีส่วนสำคัญที่ทำให้ดวงตาดูไม่สดใส คิ้วตก คือภาวะที่ตำแหน่งของคิ้วหย่อนคล้อยลงมาต่ำกว่าตำแหน่งปกติ ซึ่งเกิดจากการที่ผิวหนังและเนื้อเยื่อบริเวณหน้าผากสูญเสียความยืดหยุ่น แรงโน้มถ่วงของโลก และการยุบตัวของไขมันบริเวณหน้าผากและขมับตามอายุที่เพิ่มขึ้น
ผลกระทบของคิ้วตก:
-
ทำให้ดวงตาดูเล็กลงและอึมครึม
เมื่อคิ้วตกลงมา จะไปกดทับและบดบังส่วนบนของเปลือกตา ทำให้ดวงตาดูแคบลง ดูเล็ก และทำให้พื้นที่ระหว่างคิ้วกับเปลือกตาบนดูหดสั้นลง
-
ใบหน้าดูเศร้าหมองหรือโกรธ
คิ้วที่ตกลงมาสามารถเปลี่ยนแปลงการแสดงออกทางสีหน้า ทำให้ดูเหมือนกำลังเศร้า หงุดหงิด หรือดูโกรธอยู่ตลอดเวลา แม้จะไม่ได้รู้สึกเช่นนั้นก็ตาม
-
ปัญหาที่สับสนกับหนังตาตก
บ่อยครั้งที่คนไข้เข้าใจผิดว่าตัวเองมี หนังตาตก แต่เมื่อประเมินอย่างละเอียดแล้ว พบว่าปัญหาหลักเกิดจาก คิ้วตก ซึ่งไปดันให้เปลือกตาบนลงมาต่างหาก การแก้ไขปัญหาคิ้วตกที่ตรงจุด จะช่วยให้ดวงตาดูเปิดกว้างขึ้นมากโดยไม่ต้องทำศัลยกรรมเปลือกตาเลยในบางราย
-
นำไปสู่ริ้วรอยหน้าผาก
เช่นเดียวกับหนังตาตก เมื่อคิ้วตก คนเรามักจะชดเชยด้วยการเลิกคิ้วบ่อยๆ เพื่อพยายามยกคิ้วและเปิดดวงตาให้กว้างขึ้น ซึ่งเป็นสาเหตุโดยตรงของการเกิด ริ้วรอยหน้าผาก ในแนวนอน
-
เปลือกตาหย่อนคล้อย (Eyelid Laxity) / Dermatochalasis
ผิวหนังส่วนเกินที่สร้างความหนักอึ้ง คำว่า เปลือกตาหย่อนคล้อย หรือในทางการแพทย์เรียกว่า Dermatochalasis หมายถึงภาวะที่ผิวหนังบริเวณเปลือกตาบนหรือล่างมีส่วนเกินมากเกินไป จนเกิดการหย่อนยานและเกิดรอยพับหลายชั้น ซึ่งเป็นผลมาจากการสูญเสียความยืดหยุ่นของผิวหนัง คอลลาเจนและอีลาสตินที่ลดลงตามวัย แสงแดดจัด และกรรมพันธุ์
ผลกระทบของเปลือกตาหย่อนคล้อย
-
บดบังชั้นตา
ทำให้ชั้นตาเดิมที่เคยมีอยู่ดูเล็กลง หรือหายไปเลย ทำให้ดวงตาดูไม่มีมิติ
-
ดูมีอายุ
ผิวหนังที่หย่อนคล้อยและเป็นรอยพับหลายชั้นทำให้ดวงตาและใบหน้าโดยรวมดูมีอายุมากขึ้น
-
ปัญหาในการแต่งหน้า
การทาอายแชโดว์หรืออายไลเนอร์ทำได้ยากขึ้น เพราะผิวหนังที่หย่อนคล้อยจะทับลงมาบดบัง
-
การบดบังการมองเห็น
ในบางกรณีที่ผิวหนังส่วนเกินมีปริมาณมาก อาจหย่อนลงมาจนบดบังทัศนวิสัยในการมองเห็น โดยเฉพาะการมองด้านข้างหรือการมองขึ้น
-
หน้าผากย่น / ริ้วรอยหน้าผาก
เส้นบอกวัยที่ปรากฏชัดเจน ริ้วรอยหน้าผาก โดยเฉพาะริ้วรอยแนวนอน มักเป็นเส้นบอกวัยที่ปรากฏชัดเจนและสร้างความกังวลใจไม่แพ้ปัญหาอื่นๆ ริ้วรอยเหล่านี้เกิดจากการหดเกร็งของกล้ามเนื้อหน้าผาก (Frontalis muscle) ซ้ำๆ ซึ่งเป็นกล้ามเนื้อหลักที่ใช้ในการเลิกคิ้ว หรือชดเชยภาวะ คิ้วตก และ หนังตาตก เพื่อช่วยในการเปิดตาให้กว้างขึ้น
ประเภทของริ้วรอยหน้าผาก
-
ริ้วรอยแนวนอน (Forehead Lines)
เกิดจากการเลิกคิ้วบ่อยๆ
-
รอยขมวดคิ้ว (Glabellar Lines / Frown Lines)
เส้นแนวตั้งที่ปรากฏระหว่างคิ้ว เกิดจากการขมวดคิ้วหรือแสดงสีหน้าไม่พอใจ
ผลกระทบของริ้วรอยหน้าผาก
-
ทำให้ใบหน้าดูแก่กว่าวัย
ริ้วรอยที่ชัดเจนทำให้ใบหน้าดูมีอายุ ไม่เรียบเนียน
-
ทำให้สีหน้าดูเครียดหรือโกรธ
รอยขมวดคิ้วที่ชัดเจนอาจทำให้ดูเหมือนกำลังโกรธหรือกำลังกังวลอยู่ตลอดเวลา ซึ่งส่งผลต่อการเข้าสังคมและบุคลิกภาพโดยรวม
-
ความรู้สึกไม่มั่นใจ
เมื่อมองกระจกแล้วเห็นริ้วรอยเหล่านี้ชัดเจน หลายคนจะรู้สึกไม่มั่นใจในตัวเอง และพยายามหาทางปกปิดหรือแก้ไข
ผลกระทบที่ไม่ใช่แค่รูปลักษณ์: เมื่อความมั่นใจถูกสั่นคลอนจากภายใน

ปัญหาที่ผมกล่าวมาทั้งหมดนี้ ไม่ได้เป็นเพียงแค่เรื่องของความเปลี่ยนแปลงทางกายภาพภายนอกเท่านั้นครับ แต่ยังส่งผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อสภาพจิตใจและความรู้สึกภายในของคนไข้ ซึ่งท้ายที่สุดก็ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตโดยรวมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
-
บั่นทอนความมั่นใจในตนเอง
เมื่อรูปลักษณ์ภายนอกเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ทำให้รู้สึกไม่พึงพอใจ คนไข้มักจะรู้สึกไม่มั่นใจในตัวเอง ไม่กล้าสบตาผู้อื่น ไม่กล้าถ่ายรูป หรือหลีกเลี่ยงการเข้าสังคม
-
ผลกระทบต่อการทำงานและอาชีพ
ในบางอาชีพที่ต้องใช้บุคลิกภาพ การสื่อสาร หรือการสร้างความประทับใจแรก เช่น งานบริการ งานขาย หรืองานที่ต้องพบปะผู้คนบ่อยๆ ใบหน้าและดวงตาที่ดูเหนื่อยล้าหรือมีอายุ อาจส่งผลต่อความน่าเชื่อถือและความประทับใจที่คนอื่นมีต่อเราได้
-
ความเครียดและความวิตกกังวล
การถูกทักบ่อยๆ เกี่ยวกับความเปลี่ยนแปลง หรือการต้องพยายามปกปิดปัญหาด้วยเครื่องสำอางอย่างต่อเนื่อง สามารถนำไปสู่ความเครียด ความวิตกกังวล และความไม่พอใจในรูปลักษณ์ของตนเอง ซึ่งส่งผลต่อสุขภาพจิตโดยรวม
-
ลดทอนความสุขในการใช้ชีวิต
เมื่อรู้สึกไม่มั่นใจหรือกังวลอยู่ตลอดเวลา ก็อาจทำให้พลาดโอกาสดีๆ ในชีวิต หรือไม่สามารถใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่และมีความสุขเท่าที่ควรจะเป็น
ด้วยความเข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงความกังวลใจเหล่านี้ ผม นายแพทย์อภิรักษ์ วงษ์เสาวศุภ หรือหมอเติ้ง จึงมุ่งมั่นที่จะใช้ความรู้ ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ที่สั่งสมมา เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ไขปัญหาเหล่านี้อย่างตรงจุดและปลอดภัย ที่ คลินิกเสริมความงาม Aurora Clinic สุราษฎร์ธานี และ เกาะสมุย เราไม่ได้เพียงแค่มุ่งมั่นที่จะปลุก "ดวงตาสดใส" ให้กลับคืนมา แต่เรายังมุ่งมั่นที่จะฟื้นคืน "ความมั่นใจ" และ "ความสุข" กลับคืนมาสู่ชีวิตของคนไข้ทุกท่านด้วยครับ
“ทุกใบหน้าคือผลงานศิลปะ” ปรัชญาแห่งการรังสรรค์ความงามของหมอเติ้ง ที่ Aurora Clinic
ผมได้อุทิศตนให้กับศาสตร์แห่งศัลยกรรมตกแต่งมาเป็นเวลากว่าหลายปี ตลอดเส้นทางนี้ ผมไม่ได้มองว่างานของผมเป็นเพียงแค่ "การรักษา" ปัญหาทางกายภาพ หรือ "การผ่าตัด" เพื่อแก้ไขข้อบกพร่องเท่านั้น แต่ผมมองว่ามันคือกระบวนการที่ละเอียดอ่อน ประณีต และต้องใช้ทั้งศาสตร์แห่งการแพทย์และศิลปะแห่งการสร้างสรรค์ควบคู่กันไป
นั่นคือที่มาของปรัชญาที่ผมยึดมั่นมาโดยตลอด และเป็นรากฐานสำคัญของการทำงานของผมและทีมงานที่ Aurora Clinic นั่นคือ "ทุกใบหน้าคือผลงานศิลปะ" และสำหรับผมแล้ว ศิลปะที่แท้จริงคือความงามที่กลมกลืนกับธรรมชาติ ความงามที่สะท้อนเอกลักษณ์เฉพาะตัวของแต่ละบุคคล และความงามที่ก่อให้เกิดความสุขและความมั่นใจอย่างยั่งยืนจากภายใน
ลองนึกภาพศิลปินผู้ยิ่งใหญ่ที่กำลังสร้างสรรค์ผลงานชิ้นเอก พวกเขาไม่ได้แค่ใช้พู่กันวาดลงไปบนผืนผ้าใบอย่างสุ่มสี่สุ่มห้า แต่ต้องมีการวางแผนอย่างถี่ถ้วน ทำความเข้าใจลักษณะของแบบที่จะวาด เลือกใช้สีที่เหมาะสม แสงและเงาที่ลงตัว เพื่อให้ได้ภาพที่สื่อถึงความรู้สึกและมีชีวิตชีวา เช่นเดียวกันครับ ในการทำงานของผมกับใบหน้าของคนไข้ทุกท่าน ผมใช้หลักการเดียวกันนี้ และขยันหมั่นฝึกฝนฝีมือ พัฒนาองค์ความรู้อยู่เสมอ เพื่อให้มั่นใจว่าทุกผลงานที่ออกมานั้นคือที่สุดของความประณีตและความเข้าใจในสุนทรียะแห่งความงาม
แก่นแท้ของปรัชญา "ทุกใบหน้าคือผลงานศิลปะ" ของผม ประกอบด้วยหลายมิติที่สำคัญดังนี้ครับ:

1. การทำความเข้าใจ "ผืนผ้าใบ" และ "เอกลักษณ์เฉพาะบุคคล" (The Canvas and Its Unique Features)
ก่อนที่จะลงมือสร้างสรรค์งานศิลปะใดๆ สิ่งแรกที่ศิลปินต้องทำคือการทำความเข้าใจ "ผืนผ้าใบ" ของตนเองอย่างลึกซึ้งครับ ในทางศัลยกรรมตกแต่ง "ผืนผ้าใบ" ของผมก็คือใบหน้าของคนไข้แต่ละท่าน ซึ่งมีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ไม่มีใบหน้าสองใบหน้าที่เหมือนกันเป๊ะ 100% แม้กระทั่งในฝาแฝดก็ตาม แต่ละใบหน้าล้วนมีโครงสร้างกระดูก รูปทรงของดวงตา จมูก คาง สัดส่วนของใบหน้า ความยืดหยุ่นของผิวพรรณ รวมถึงลักษณะเฉพาะอื่นๆ ที่ทำให้แต่ละคนมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง
ผมใช้เวลาอย่างมากในการพูดคุย ซักประวัติอย่างละเอียด และที่สำคัญที่สุดคือการ "รับฟัง" ความต้องการ ความกังวลใจ และความคาดหวังที่แท้จริงของคนไข้แต่ละท่านอย่างลึกซึ้ง ผมจะสอบถามถึงความรู้สึกที่มีต่อปัญหาที่กำลังเผชิญอยู่ เช่น ความกังวลเรื่อง หนังตาตก ที่ทำให้ดูเหนื่อยล้าตลอดเวลา ปัญหา คิ้วตก ที่ทำให้ใบหน้าดูเศร้าหมอง หรือ หน้าผากย่น ที่ทำให้ดูมีอายุเกินจริง การทำความเข้าใจ "ความปรารถนา" เหล่านี้อย่างถ่องแท้ คือจุดเริ่มต้นของการสร้างสรรค์ผลงานที่ตรงใจและเป็นธรรมชาติอย่างแท้จริง
ผมจะทำการวิเคราะห์โครงสร้างใบหน้าของคนไข้แต่ละท่านอย่างละเอียดถี่ถ้วน ทั้งจากการสังเกตด้วยตาเปล่า การคลำสัมผัส การใช้ภาพถ่ายจากมุมต่างๆ และการใช้เครื่องมือที่ทันสมัย เพื่อให้เห็นถึงปัญหาที่แท้จริง สาเหตุที่ซ่อนอยู่ และที่สำคัญคือ "ศักยภาพ" ที่สามารถพัฒนาได้ของใบหน้านั้นๆ ผมไม่ได้เพียงแค่มองเห็น "ปัญหา" ที่ต้องการแก้ไข แต่เป็นการมองเห็น "โอกาส" ในการสร้างสรรค์ความงามในแบบของเขาเอง โดยที่ยังคงรักษาความเป็นตัวตนและเอกลักษณ์ดั้งเดิมไว้
2. การวางแผน "พิมพ์เขียว" ที่พิถีพิถันและแม่นยำ (The Sketching and Blueprint)
หลังจากทำความเข้าใจผืนผ้าใบและเอกลักษณ์เฉพาะตัวอย่างลึกซึ้งแล้ว ขั้นตอนต่อไปที่สำคัญไม่แพ้กันคือการ "วางแผน" ครับ ศิลปินจะเริ่มจากการร่างภาพ (Sketching) เพื่อกำหนดสัดส่วน องค์ประกอบ แสงเงา และทิศทางของงาน ในทางศัลยกรรมตกแต่ง นี่คือขั้นตอนของการวางแผนการรักษาที่พิถีพิถันและแม่นยำที่สุด ผมจะนำข้อมูลที่ได้จากการวิเคราะห์และจากการพูดคุยกับคนไข้ มาผสานกับความรู้และประสบการณ์ที่สั่งสมมา เพื่อออกแบบ "พิมพ์เขียว" (Blueprint) การรักษาเฉพาะบุคคล การออกแบบพิมพ์เขียวนี้ อาจรวมถึง
-
การเลือกเทคนิคที่เหมาะสมที่สุด
ไม่ว่าจะเป็นการ ยกหนังตา การแก้ไข หนังตาตก การ ยกคิ้ว เพื่อแก้ไข คิ้วตก และ หน้าผากย่น การฉีดโบท็อกซ์ หรือการผสมผสานหลายเทคนิคเข้าด้วยกัน ผมจะเลือกเทคนิคที่ให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ปลอดภัยที่สุด และเหมาะสมกับสภาพปัญหา ความต้องการ และไลฟ์สไตล์ของคนไข้แต่ละรายมากที่สุด ผมไม่เพียงแต่ใช้เทคนิคที่ทันสมัยที่สุด แต่ผมใช้เทคนิคที่ "ใช่" ที่สุดสำหรับคนไข้คนนั้น
-
การกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนและเป็นไปได้จริง
ผมจะพูดคุยกับคนไข้ถึงผลลัพธ์ที่คาดหวังได้ตามความเป็นจริง โดยอ้างอิงจากลักษณะโครงสร้างของคนไข้เอง ไม่มีการให้คำสัญญาเกินจริง เพื่อให้คนไข้มีความเข้าใจที่ถูกต้องและไม่คาดหวังจนเกินเลย
-
การอธิบายขั้นตอนอย่างละเอียดและโปร่งใส
ผมจะใช้ภาพประกอบ โมเดล หรือแม้กระทั่งการจำลองภาพ (ถ้ามีและเหมาะสม) เพื่ออธิบายขั้นตอนการรักษา ข้อดี ข้อเสีย ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ และแนวทางการดูแลหลังการรักษาอย่างละเอียด ชัดเจน และเป็นภาษาที่เข้าใจง่าย เพื่อให้คนไข้รู้สึกสบายใจและมั่นใจในทุกขั้นตอนก่อนที่จะตัดสินใจ
-
ความปลอดภัยต้องมาเป็นอันดับหนึ่ง
ในทุกขั้นตอนของการวางแผนและดำเนินการ ความปลอดภัยของคนไข้คือสิ่งสำคัญสูงสุด ผมจะประเมินสุขภาพโดยรวมของคนไข้ ตรวจสอบประวัติทางการแพทย์อย่างถี่ถ้วน และให้คำแนะนำที่จำเป็น เพื่อให้มั่นใจว่าการรักษาจะดำเนินไปอย่างราบรื่นและปลอดภัยที่สุด
การวางแผนที่พิถีพิถันนี้คือสิ่งสำคัญที่จะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่งดงามและปลอดภัย เปรียบเสมือนการเตรียมพื้นฐานที่แข็งแกร่งสำหรับงานศิลปะชิ้นเอก
3. ความละเอียดอ่อนและทักษะแห่งการสร้างสรรค์ (The Brushstrokes and Sculpting)
เมื่อพิมพ์เขียวพร้อมแล้ว ศิลปินก็จะลงมือใช้พู่กันสร้างสรรค์ผลงานครับ ในขั้นตอนการทำหัตถการนี้ ผมจะใช้ทักษะความรู้ ประสบการณ์ และความประณีตในระดับสูงสุด เพื่อให้ทุกขั้นตอนของการผ่าตัดหรือการทำหัตถการเป็นไปอย่างแม่นยำและละเอียดอ่อนที่สุดครับ
-
การใช้เทคนิคที่ทันสมัยและเหมาะสม
ผมศึกษาและนำเทคนิคใหม่ๆ ที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ มาปรับใช้และพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด เช่น เทคนิคการ ยกหนังตา หรือการ ยกคิ้ว ที่ให้รอยแผลเป็นน้อยที่สุด หรือซ่อนในตำแหน่งที่มองไม่เห็น
-
ความประณีตในทุกรายละเอียด
ไม่ว่าจะเป็นการกรีดเปิดแผลที่เล็กที่สุด การเย็บที่ละเอียดอ่อน การเลือกใช้เครื่องมือที่เหมาะสมกับแต่ละขั้นตอน การวางตำแหน่งของเนื้อเยื่อ หรือการจัดการกับไขมันส่วนเกิน ผมจะทำด้วยความพิถีพิถันสูงสุด เพื่อให้เกิดความเสียหายน้อยที่สุด และได้ผลลัพธ์ที่สวยงามเป็นธรรมชาติที่สุด
-
การผสมผสานศาสตร์และศิลป์
การทำศัลยกรรมตกแต่งไม่ใช่แค่การผ่าตัดตามตำรา หรือการปฏิบัติตามขั้นตอนเท่านั้น แต่ต้องอาศัย "สายตา" ของศิลปินในการมองเห็นความสมดุล ความกลมกลืน และความงามที่ซ่อนอยู่ ผมจะประเมินและปรับแต่งในทุกๆ มิลลิเมตร เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ได้ออกมาไม่เพียงแค่แก้ไขปัญหา แต่ยังช่วยเสริมสร้างมิติและความงามตามธรรมชาติของใบหน้าคนไข้ให้โดดเด่นยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเปิดกรอบตาให้ดูสดใสขึ้น การปรับแนวคิ้วให้ได้รูปทรงที่เหมาะสม หรือการทำให้หน้าผากเรียบเนียนขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
4. "ผลงานชิ้นเอก" คือความงามที่กลมกลืนและเป็นธรรมชาติ (The Masterpiece: Natural Harmony)
เป้าหมายสูงสุดของงานศิลปะที่ดีคือการสื่อถึงความรู้สึกและมีชีวิตชีวาครับ สำหรับผมแล้ว "ผลงานศิลปะ" บนใบหน้าของคนไข้ที่ดีที่สุดคือความงามที่ดูเป็นธรรมชาติ ไม่ดูตึงแข็ง ไม่ดูประดิษฐ์ หรือดูเหมือนผ่านการทำศัลยกรรมมาจนเกินไป สิ่งที่ผมปรารถนาคือการที่คนไข้สามารถกลับไปใช้ชีวิตได้อย่างมั่นใจ โดยที่ผู้คนรอบข้างสังเกตเห็นว่า "คุณดูดีขึ้น" "ดูสดใสขึ้น" "ดูอ่อนเยาว์ลง" แต่ไม่สามารถระบุได้ชัดเจนว่า "ไปทำอะไรมา"
-
เน้นความกลมกลืนและสมดุล
ผมมุ่งเน้นการปรับปรุงและเสริมสร้างความงามเดิมที่มีอยู่ ให้ใบหน้าโดยรวมดูสมดุลและกลมกลืนในทุกสัดส่วน ไม่ใช่การเปลี่ยนไปเป็นคนใหม่ แต่เป็นการดึงศักยภาพความงามของคนไข้แต่ละคนออกมาให้โดดเด่นที่สุดในแบบของเขาเอง
-
ผลลัพธ์ที่ยั่งยืน
ผมไม่ได้มองแค่ผลลัพธ์ระยะสั้น แต่ยังคำนึงถึงความคงทนของผลลัพธ์ในระยะยาวด้วยการเลือกเทคนิคและวัสดุที่เหมาะสม รวมถึงการให้คำแนะนำในการดูแลตัวเองหลังการรักษาอย่างละเอียด
-
ความสุขและความมั่นใจของคนไข้
ท้ายที่สุดแล้ว ผลลัพธ์ที่สำคัญที่สุดและเป็นรางวัลอันล้ำค่าที่สุดสำหรับผมคือรอยยิ้มที่เปี่ยมด้วยความสุข ความมั่นใจที่กลับคืนมา และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของคนไข้ครับ การได้เห็นคนไข้กลับไปใช้ชีวิตประจำวันด้วยความมั่นใจ กล้าที่จะยิ้ม กล้าที่จะสบตา และกล้าที่จะเป็นตัวเองอย่างเต็มที่ นั่นคือสิ่งที่ยืนยันว่า "ผลงานศิลปะ" ของผมประสบความสำเร็จอย่างแท้จริง
Aurora Clinic ทั้งในสุราษฎร์ธานีและเกาะสมุย ผมและทีมงานทุกคนยึดมั่นในปรัชญา "ทุกใบหน้าคือผลงานศิลปะ" นี้อย่างเคร่งครัด เราเชื่อว่าทุกท่านสมควรได้รับความงามที่ดีที่สุด ความปลอดภัยสูงสุด และการดูแลเอาใจใส่ในระดับศิลปินผู้สร้างสรรค์ผลงาน เพื่อให้เส้นทางสู่การปลุก "ดวงตาสดใส" ในตัวคุณ และการมีใบหน้าที่อ่อนเยาว์กลับคืนมาอีกครั้ง เป็นไปอย่างราบรื่นและเปี่ยมด้วยความสุขครับ
กุญแจสู่ "ดวงตาสดใส" และ "หน้าไม่ยับ": เทคนิคการแก้ไขที่หลากหลายและปลอดภัย

หลังจากที่เราได้พูดคุยกันถึงปัญหาและความกังวลใจเกี่ยวกับความเปลี่ยนแปลงของใบหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณรอบดวงตาและหน้าผากที่มักจะฟ้องอายุ รวมถึงปรัชญาการทำงานของผมที่มองว่า "ทุกใบหน้าคือผลงานศิลปะ" แล้วนั้น ถึงเวลาที่เราจะมาเจาะลึกถึง "กุญแจ" สำคัญที่จะไขความลับสู่การมีใบหน้าที่ "ตาไม่ตก" และ "หน้าไม่ยับ" กันครับ
ผมเข้าใจดีว่าคนไข้แต่ละท่านมีความต้องการ ปัญหา และข้อจำกัดที่แตกต่างกันไป ดังนั้น ที่ Aurora Clinic เราจึงไม่ได้มีเพียงแค่เทคนิคเดียวสำหรับทุกคน แต่เรามีทางเลือกและเทคนิคที่หลากหลาย เพื่อให้สามารถปรับแผนการรักษาให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคลได้อย่างลงตัวที่สุด โดยคำนึงถึงผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ ความปลอดภัยสูงสุด และการฟื้นตัวที่รวดเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ครับ
ผมขอพาทุกท่านมาทำความรู้จักกับเทคนิคสำคัญต่างๆ ที่เราใช้ในการแก้ไขปัญหาเหล่านี้อย่างละเอียดครับ:
1. การแก้ไขปัญหา "หนังตาตก" และ "เปลือกตาหย่อนคล้อย": ศัลยกรรมตาบน และ ศัลยกรรมตาสองชั้น
เมื่อพูดถึงปัญหาที่เปลือกตาบน ไม่ว่าจะเป็น หนังตาตก (Ptosis) ที่เกิดจากกล้ามเนื้ออ่อนแรง หรือ เปลือกตาหย่อนคล้อย (Dermatochalasis) จากผิวหนังส่วนเกิน การทำศัลยกรรมตาบนถือเป็นวิธีที่ให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนและถาวรที่สุด ซึ่งผมจะพิจารณาเทคนิคที่เหมาะสมกับลักษณะปัญหาของคนไข้แต่ละรายอย่างพิถีพิถัน:
-
ศัลยกรรมตาสองชั้น (Double Eyelid Surgery): สร้างชั้นตาที่คมชัดและแก้ไขหนังตาส่วนเกินอย่างแม่นยำ
-
เหมาะสำหรับ: ผู้ที่มีตาชั้นเดียว ตาสองชั้นหลบใน หรือผู้ที่มี เปลือกตาหย่อนคล้อย ลงมาทับชั้นตาหรือบดบังการมองเห็น ทำให้ดวงตาดูไม่สดใส ดูเล็ก หรือดูเหนื่อยล้า
-
เทคนิคของผม (พิจารณาตามสภาพคนไข้):
-
การกรีดยาว (Full Incision Blepharoplasty): เป็นเทคนิคที่ผมมักแนะนำสำหรับผู้ที่มีปัญหา หนังตาตก จากสาเหตุของหนังตาส่วนเกินค่อนข้างมาก มีไขมันที่เปลือกตาหนา หรือมีกล้ามเนื้อตาที่หย่อนคล้อย เทคนิคนี้ช่วยให้ผมสามารถกำจัดไขมันส่วนเกิน หนังตาส่วนเกิน และปรับแต่งกล้ามเนื้อตาได้อย่างละเอียดแม่นยำ เพื่อสร้างชั้นตาที่ชัดเจนถาวร และแก้ไขปัญหา หนังตาตก ที่เกิดจากผิวหนังหรือไขมันได้อย่างมีประสิทธิภาพ รอยแผลจะถูกซ่อนไว้อย่างแนบเนียนในรอยพับเปลือกตาใหม่ เมื่อหายดีแล้วจะมองเห็นได้น้อยมากจนแทบไม่เป็นที่สังเกต ทำให้คนไข้ไม่ต้องกังวลเรื่องรอยแผลเป็น
-
การกรีดสั้น (Partial Incision Blepharoplasty): เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาไม่มากนัก มีหนังตาส่วนเกินไม่เยอะมาก และไขมันที่เปลือกตาไม่หนา เทคนิคนี้มีแผลเล็กกว่า ทำให้บวมช้ำน้อยและฟื้นตัวได้เร็วกว่าการกรีดยาว
-
การเย็บจุด (Non-incisional Blepharoplasty): เป็นเทคนิคที่ไม่ต้องกรีด เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการชั้นตาที่ดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด และไม่มีปัญหาหนังตาส่วนเกินหรือไขมันเยอะเกินไป เหมาะสำหรับผู้ที่อายุน้อยและต้องการเพิ่มมิติให้กับดวงตา
-
-
ข้อดีโดยรวมของศัลยกรรมตาสองชั้น: สร้างชั้นตาที่คมชัด ดวงตาดูโตขึ้น สดใสขึ้น ใบหน้าโดยรวมดูอ่อนเยาว์และมีชีวิตชีวา แก้ไขปัญหา หนังตาตก และ เปลือกตาหย่อนคล้อย ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ให้ผลลัพธ์ที่คงทนและเป็นธรรมชาติ
-
-
การแก้ไขหนังตาตกแท้ (Ptosis Repair): เมื่อกล้ามเนื้อยกเปลือกตาคือต้นเหตุของปัญหา
-
เหมาะสำหรับ: ผู้ที่มีปัญหา หนังตาตก ที่แท้จริง ซึ่งเกิดจากภาวะกล้ามเนื้อยกเปลือกตา (Levator Palpebrae Superioris muscle) อ่อนแรง หรือเส้นเอ็นที่ยึดกล้ามเนื้อหลุดออกจากตำแหน่ง มักพบในผู้สูงอายุจากการเสื่อมสภาพ หรือบางรายเป็นมาแต่กำเนิด
-
เทคนิคของผม: เป็นการผ่าตัดเพื่อซ่อมแซมตัวกล้ามเนื้อยกเปลือกตาโดยตรง หรือปรับความตึงของกล้ามเนื้อให้เหมาะสม เพื่อให้เปลือกตายกขึ้นอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง สามารถทำร่วมกับการทำตาสองชั้นได้หากมีปัญหาหนังตาส่วนเกินร่วมด้วย การประเมินอย่างละเอียดเพื่อระบุสาเหตุที่แท้จริงของ Ptosis นั้นสำคัญมาก เพื่อให้การแก้ไขตรงจุดและได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
-
ข้อดี: แก้ไขปัญหา หนังตาตก ที่เกิดจากกล้ามเนื้อโดยตรง ทำให้เปลือกตายกขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ การมองเห็นดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และดวงตาดูเปิดกว้าง สดใส คืนความอ่อนเยาว์ให้กับใบหน้า
-
2. สยบ "คิ้วตก" และ "หน้าผากย่น": เทคนิคการยกคิ้ว และ การดึงหน้าผากที่ช่วยคืนความสดใส
ปัญหา คิ้วตก และ หน้าผากย่น มักมาพร้อมกันและทำให้ใบหน้าส่วนบนดูแก่กว่าวัย ดูเศร้าหมอง หรือแม้กระทั่งดูโกรธ ผมมีเทคนิคที่หลากหลายในการแก้ไขปัญหานี้ เพื่อให้ดวงตาดูเปิดกว้างขึ้นและหน้าผากเรียบเนียนขึ้น:
-
การยกคิ้ว (Brow Lift): คืนตำแหน่งคิ้วที่เหมาะสม เพื่อกรอบดวงตาที่เปิดกว้างและสดใส
เหมาะสำหรับ: ผู้ที่มีปัญหา คิ้วตก ทำให้ดวงตาดูไม่สดใส พื้นที่ระหว่างคิ้วกับตาแคบลง หรือมี หน้าผากย่น จากการเลิกคิ้วบ่อยๆ เพื่อชดเชยการมองเห็น
-
เทคนิคของผม (พิจารณาตามความรุนแรงของปัญหาและความต้องการของคนไข้):
-
การยกคิ้วโดยการส่องกล้อง (Endoscopic Brow Lift)
-
เป็นเทคนิคที่ผมแนะนำและได้รับความนิยมมากที่สุดในปัจจุบัน เนื่องจากมีแผลขนาดเล็กเพียงไม่กี่จุด ซ่อนอยู่ในไรผมบริเวณหน้าผาก ผมจะใช้กล้อง Endoscope ขนาดเล็กสอดเข้าไปเพื่อดูโครงสร้างภายในอย่างละเอียด และใช้เครื่องมือพิเศษในการยกกระชับเนื้อเยื่อและกล้ามเนื้อบริเวณหน้าผากและคิ้วให้กลับคืนสู่ตำแหน่งที่เหมาะสมอย่างเป็นธรรมชาติ
-
ข้อดี: แผลเล็กมาก เจ็บน้อย บวมช้ำน้อย ฟื้นตัวเร็ว ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติมาก สามารถแก้ไขปัญหา คิ้วตก และลด หน้าผากย่น ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และผลลัพธ์คงอยู่ได้นาน
-
การยกคิ้วโดยตรง (Direct Brow Lift)
เป็นเทคนิคที่ทำโดยการตัดผิวหนังส่วนเกินบริเวณเหนือคิ้วออกไปโดยตรง มักใช้ในผู้สูงอายุที่มี คิ้วตก มากและมีรอยย่นบริเวณหน้าผากชัดเจน
-
ข้อดี: เห็นผลการยกกระชับคิ้วได้ชัดเจนและรวดเร็ว
-
ข้อควรพิจารณา: มีแผลเป็นที่มองเห็นได้บริเวณเหนือคิ้ว ซึ่งอาจต้องอาศัยการแต่งหน้าช่วยปกปิดในระยะแรก แต่รอยแผลมักจะจางลงมากเมื่อเวลาผ่านไป
-
การยกคิ้วผ่านรอยแผลตาสองชั้น (Trans-Blepharoplasty Browpexy / Brow Lift)
สามารถทำร่วมกับการทำตาสองชั้น โดยใช้แผลเดียวกันในการยกกระชับคิ้วในระดับที่ไม่มากนัก
-
ข้อดี: ไม่มีแผลเพิ่มขึ้น และสามารถแก้ไขได้ทั้งปัญหาตาและคิ้วในคราวเดียว
-
การดึงหน้าผาก (Forehead Lift): การแก้ไขปัญหาหน้าผากย่นและคิ้วตกอย่างครอบคลุมและถาวร
-
เหมาะสำหรับ: ผู้ที่มีปัญหา หน้าผากย่น หลายเส้นอย่างชัดเจน และ คิ้วตก อย่างรุนแรง ต้องการผลลัพธ์ที่ครอบคลุมและคงทนถาวร
-
เทคนิคของผม: คล้ายกับการยกคิ้วแบบส่องกล้อง แต่เป็นการยกกระชับผิวหนังและกล้ามเนื้อบริเวณหน้าผากทั้งหมดให้ตึงขึ้น ทำให้ริ้วรอยหน้าผากเรียบเนียนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และคิ้วยกขึ้นในตำแหน่งที่สวยงามและดูอ่อนเยาว์มากขึ้น
-
ข้อดี: ให้ผลลัพธ์การลด หน้าผากย่น และการยกคิ้วที่ชัดเจนที่สุดและคงทนถาวรที่สุด
-
3. ทางเลือกเพิ่มเติมสำหรับริ้วรอยและการฟื้นฟูผิว: โบท็อกซ์ และเทคโนโลยีเสริมความงาม
สำหรับผู้ที่มีปัญหา หน้าผากย่น จากการแสดงสีหน้าเป็นหลัก หรือต้องการปรับปรุงคุณภาพผิวโดยรวม ผมก็มีทางเลือกเพิ่มเติมที่ช่วยเสริมผลลัพธ์ให้ดียิ่งขึ้น
-
โบท็อกซ์ (Botulinum Toxin): มหัศจรรย์แห่งการลดริ้วรอยจากการแสดงสีหน้า
-
เหมาะสำหรับ: ริ้วรอยที่เกิดจากการทำงานของกล้ามเนื้อซ้ำๆ หรือที่เรียกว่า Dynamic Wrinkles เช่น รอยย่นหน้าผากจากการเลิกคิ้ว รอยขมวดคิ้วระหว่างคิ้ว หรือรอยตีนกาบริเวณหางตา
-
เทคนิค: ผมจะฉีดสารโบทูลินัม ท็อกซิน ปริมาณเล็กน้อยและแม่นยำเข้าไปยังกล้ามเนื้อที่เป็นสาเหตุของริ้วรอยนั้นๆ สารนี้จะออกฤทธิ์ยับยั้งการทำงานของกล้ามเนื้อชั่วคราว ทำให้กล้ามเนื้อคลายตัว ส่งผลให้ริ้วรอยบริเวณที่ฉีดดูจางลง หรือหายไปในที่สุด
-
ข้อดี: เห็นผลรวดเร็ว (โดยทั่วไปเริ่มเห็นผลภายใน 3-7 วัน) ริ้วรอยลดลงอย่างชัดเจน หน้าผากดูเรียบเนียนขึ้น และเป็นหัตถการที่ไม่ต้องพักฟื้น สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ทันที การฉีดโบท็อกซ์เป็นประจำยังช่วยป้องกันการเกิดริ้วรอยใหม่ที่ลึกขึ้นในอนาคต
-
-
HIFU (High-Intensity Focused Ultrasound): นวัตกรรมยกกระชับผิวหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัด
-
เหมาะสำหรับ: ผู้ที่มีปัญหาผิวหน้าและลำคอหย่อนคล้อยเล็กน้อยถึงปานกลาง กรอบหน้าไม่ชัดเจน มีเหนียง หรือต้องการยกกระชับผิวโดยไม่ต้องผ่าตัด และไม่ต้องการพักฟื้นนาน สามารถใช้เพื่อยกกระชับบริเวณหน้าผากและยกคิ้วได้ในระดับหนึ่ง
-
เทคนิค: HIFU คือการใช้คลื่นอัลตราซาวด์ความเข้มข้นสูงและแม่นยำ ยิงลงไปใต้ชั้นผิวหนังในระดับความลึกต่างๆ กัน เช่น ชั้นหนังแท้ ชั้นไขมัน และชั้น SMAS (Superficial Musculoaponeurotic System) ซึ่งเป็นชั้นเดียวกับที่ใช้ในการผ่าตัดดึงหน้า คลื่นอัลตราซาวด์จะเปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อนที่จุดโฟกัส ทำให้เกิดการหดตัวของคอลลาเจนเก่า และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่จำนวนมาก
-
ข้อดี: ยกกระชับผิวหน้าและลำคอ ลดเหนียง กรอบหน้าคมชัดขึ้น ผิวดูอ่อนเยาว์และยืดหยุ่นขึ้น โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติเพราะเป็นการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนของร่างกาย
-
-
ฟิลเลอร์ (Filler): เติมเต็มร่องลึกและเพิ่มมิติอย่างเป็นธรรมชาติ
-
เหมาะสำหรับ: ใช้ในการเติมเต็มร่องลึกบางจุดบริเวณขมับหรือหน้าผากที่ยุบตัวจากการสูญเสียไขมัน หรือใช้ปรับโครงสร้างบริเวณรอบดวงตาที่ขาดวอลลุ่ม เพื่อให้ใบหน้าดูอิ่มฟูและมีมิติมากขึ้น โดยเฉพาะในส่วนที่อาจมีรอยบุ๋มหรือความไม่สม่ำเสมอ
-
เทคนิค: ผมจะใช้สารเติมเต็มประเภท Hyaluronic Acid (HA Filler) ที่มีคุณสมบัติเหมาะสม ฉีดเข้าไปบริเวณที่ต้องการเติมเต็มอย่างแม่นยำและประณีต เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติที่สุด
-
ข้อดี: เห็นผลทันทีหลังฉีด ช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์และมีมิติขึ้
-
“ความปลอดภัยคือหัวใจ” ปรัชญาการดูแลคนไข้ของหมอเติ้งที่ Aurora Clinic

ไม่ว่าจะเป็นเทคนิคใดก็ตามที่ถูกเลือกใช้ สิ่งที่ผม นายแพทย์อภิรักษ์ วงษ์เสาวศุภ ให้ความสำคัญสูงสุดคือ ความปลอดภัย ของคนไข้ทุกท่านครับ ที่ คลินิกเสริมความงาม Aurora Clinic สุราษฎร์ธานี และ เกาะสมุย เรายึดมั่นในมาตรฐานทางการแพทย์สูงสุดในทุกขั้นตอน:
-
การประเมินอย่างละเอียดถี่ถ้วน
ก่อนการตัดสินใจทำหัตถการใดๆ ผมจะทำการประเมินสุขภาพโดยรวมของคนไข้ ประวัติการเจ็บป่วย การใช้ยา โรคประจำตัว และประวัติการแพ้ยาอย่างละเอียดถี่ถ้วน เพื่อให้มั่นใจว่าคนไข้มีความพร้อมและสามารถทำหัตถการได้อย่างปลอดภัยที่สุด การวิเคราะห์ที่แม่นยำตั้งแต่ต้นคือสิ่งสำคัญเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง
-
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญและประสบการณ์สูง
หัตถการทุกขั้นตอนดำเนินการโดยผมเอง (นพ.อภิรักษ์ วงษ์เสาวศุภ) ซึ่งเป็นศัลยแพทย์ตกแต่งผู้เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์สูงในการทำศัลยกรรมใบหน้าโดยเฉพาะ พร้อมด้วยทีมพยาบาลและผู้ช่วยที่ได้รับการอบรมมาอย่างดี มีความรู้ความเข้าใจในหัตถการแต่ละประเภทอย่างลึกซึ้ง และพร้อมให้การดูแลอย่างใกล้ชิด
-
ผลิตภัณฑ์และอุปกรณ์ที่ได้มาตรฐานสากล
เราเลือกใช้ผลิตภัณฑ์และอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ทันสมัย ได้มาตรฐานสากล และผ่านการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ เพื่อให้มั่นใจในคุณภาพ ความสะอาด และความปลอดภัยสูงสุด เช่น การใช้เข็มและวัสดุที่ปราศจากเชื้อ และการดูแลรักษาเครื่องมืออย่างถูกวิธี
-
มาตรฐานความสะอาดและปลอดเชื้อในระดับสูง
คลินิกของเราได้รับการออกแบบและบำรุงรักษาให้มีมาตรฐานความสะอาดและปลอดเชื้อในระดับสูงเทียบเท่าโรงพยาบาล เพื่อป้องกันการติดเชื้อและภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการทำศัลยกรรมที่ปลอดภัย
-
การดูแลหลังการรักษาอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง
การดูแลหลังการรักษาเป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้การทำหัตถการครับ ผมเชื่อว่าการผ่าตัดหรือการทำหัตถการเป็นเพียงครึ่งทางเท่านั้น อีกครึ่งทางที่เหลือคือการดูแลตัวเองของคนไข้และการติดตามผลจากทีมแพทย์อย่างใกล้ชิด ผมและทีมงานจะให้คำแนะนำในการดูแลตัวเองหลังการรักษาอย่างละเอียดและชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นวิธีการทำความสะอาดแผล การรับประทานยา การประคบ การพักผ่อน หรือข้อควรปฏิบัติและข้อควรหลีกเลี่ยงต่างๆ เพื่อให้แผลหายเร็ว ลดอาการบวมช้ำ และป้องกันภาวะแทรกซ้อน นอกจากนี้ เรายังมีการนัดหมายคนไข้เข้ามาติดตามผลเป็นระยะ เพื่อประเมินการฟื้นตัว ดูแลแผล และตอบข้อสงสัยหรือข้อกังวลที่อาจเกิดขึ้น ผมพร้อมที่จะให้คำปรึกษาและแก้ไขปัญหาต่างๆ หากคนไข้มีข้อสงสัยหรือความกังวลใจในช่วงเวลาพักฟื้น
การเลือกเทคนิคที่เหมาะสมไม่ใช่เพียงแค่ความรู้ทางเทคนิค แต่ยังต้องอาศัย "ศิลปะ" ในการมองเห็นความงามที่ซ่อนอยู่ และความเข้าใจในความต้องการที่แท้จริงของคนไข้แต่ละราย ผมเชื่อมั่นว่าด้วยความเชี่ยวชาญ ประสบการณ์ และความใส่ใจในทุกรายละเอียดของผมและทีมงานที่ Aurora Clinic เราคือ "กุญแจ" สำคัญที่จะช่วยให้ทุกท่านไขความลับสู่การมี "ดวงตาสดใส" และ "หน้าไม่ยับ" ได้อย่างยั่งยืนครับ
บทสรุปจากใจหมอเติ้ง: ปลุกดวงตาสดใส คืนความมั่นใจให้กับชีวิต

ผมเชื่อมั่นว่าการมี "ดวงตาสดใส" และใบหน้าที่ "ไม่ยับ" ไม่ใช่เพียงแค่ความฝัน แต่เป็นสิ่งที่สามารถเป็นจริงได้ด้วยศาสตร์แห่งศัลยกรรมตกแต่งที่ถูกหลักการและศิลปะที่พิถีพิถันครับ
ผม นายแพทย์อภิรักษ์ วงษ์เสาวศุภ หรือหมอเติ้ง แห่ง คลินิกเสริมความงาม Aurora Clinic สุราษฎร์ธานี และ เกาะสมุย มีความภาคภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการเดินทางเพื่อค้นหาความงามและความมั่นใจของคนไข้ทุกท่านครับ ผมได้เห็นรอยยิ้มที่สดใส ดวงตาที่เปล่งประกาย และความสุขที่ฉายออกมาจากภายในของคนไข้หลายต่อหลายท่าน หลังจากที่ปัญหา หนังตาตก คิ้วตก หรือ หน้าผากย่น ได้รับการแก้ไข ไม่ว่าจะเป็นการทำ ศัลยกรรมตาสองชั้น การ ยกหนังตา หรือการ ยกคิ้ว
ความงามที่แท้จริงไม่ได้อยู่ที่การเปลี่ยนแปลงอย่างสิ้นเชิง แต่อยู่ที่การดึงศักยภาพความงามตามธรรมชาติของแต่ละบุคคลออกมาให้เด่นชัดที่สุด พร้อมกับสร้าง "ความมั่นใจ" ที่ยั่งยืนจากภายในสู่ภายนอก
หากท่านกำลังเผชิญกับความกังวลใจเกี่ยวกับความเปลี่ยนแปลงของใบหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาที่เกี่ยวกับรอบดวงตาและหน้าผาก ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเล็กน้อยหรือปัญหาใหญ่ โปรดอย่าลังเลที่จะเข้ามาปรึกษาผมและทีมงานที่ Aurora Clinic ครับ เราพร้อมที่จะรับฟัง ทำความเข้าใจ และนำเสนอทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับท่าน เพื่อให้ท่านได้กลับมาเป็นตัวเองในเวอร์ชันที่ดีที่สุด มีดวงตาที่สดใส ใบหน้าที่อ่อนเยาว์ และเต็มเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจอีกครั้ง
ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเส้นทางสู่ดวงตาสดใสและใบหน้าอ่อนเยาว์นี้ จะเป็นเส้นทางที่ทุกท่านสามารถก้าวเดินไปพร้อมกับพวกเราที่ Aurora Clinic ได้อย่างมีความสุขและปลอดภัยครับ ผมรอคอยที่จะได้พบกับทุกท่านและเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสรรค์ความมั่นใจให้กับชีวิตของท่านครับ
Aurora Clinic สาขา Samui ✨
FACEBOOK: facebook.com/auroraclinicsamui
Add line จองโปรโมชั่น : https://lin.ee/PJSVPOv6 (@aurorasamui)
TEL : 083-629-1446
Location : https://maps.app.goo.gl/y1a4H3wX5reeJU989…
Opening Hours : เปิดทำการทุกวัน เวลา 10:00 น. - 20:00 น.
Aurora Clinic สาขาสุราษฎร์ธานี ✨
FACEBOOK: facebook.com/auroraclinicsurat
Tel : 096-652-0899
Line : @auroraclinic
Location : https://maps.app.goo.gl/MfSBczSYdXZ2xctr9…
Opening Hours : เปิดทำการทุกวัน เวลา 10:00 น. - 20:00 น.
เรายินดีต้อนรับทุกท่านด้วยความอบอุ่นและพร้อมที่จะดูแลคุณให้สวยและมั่นใจในแบบที่เป็นคุณครับ